Menu
Edit Template

ฉีดไขมันใบหน้า
(Facial Lipofilling)

การฉีดไขมันที่ใบหน้าเป็นเทคนิคการผ่าตัดที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษไม่เพียงแต่ต้องใช้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับศาสตร์ของการย้ายและปลูกถ่ายเนื้อเยื่อแล้วยังต้องใช้ศิลปะและความคิดที่เกี่ยวข้องกับความสวยงามของใบหน้า การฉีดไขมันตัวเอง เป็นการผ่าตัดซึ่งแตกต่างจากการฉีดคอลลาเจนโดยสิ้นเชิง การฉีดคอลลาเจนเป็นการฉีดสารที่เป็นของเหลว เข้าไปเติมให้เต็มในพื้นที่ ที่ต้องการ เข็มที่ใช้ฉีดสามารถใช้เข็มขนาดเล็กๆ ได้ความนูนเด่นของผิวหนังขึ้นกับปริมาณสารที่ฉีด แต่การฉีดไขมันเป็นการย้ายเซลล์ไขมันจากที่หนึ่งโดยแบ่งเนื้อเยื่อไขมันเป็นอนุภาคเล็กๆด้วยเข็มดูดไขมันหลังจากนั้นก็ย้ายเซลล์ไขมันมาใส่ในกระบอกฉีดยาที่ใช้สำหรับฉีดไขมันและฉีดผ่านเข็มขนาดเล็กๆ โดยการฉีดต้องฉีดในปริมาณน้อยๆและกระจายไปทั่วๆ ทุกชั้นของเนื้อเยื่อเพื่อให้เซลล์ที่ฉีดเข้าไปสัมผัสกับเนื้อเยื่อภายในให้มากที่สุดเพื่อให้เซลล์ไขมันมีเลือดมาเลี้ยงและมีชีวิตอยู่รอด ผลของการผ่าตัดความนูนเด่นของผิวหนังขึ้นกับจำนวนเซลล์ไขมันที่ฉีดเข้าไปแล้วมีเลือดมาเลี้ยงเพียงพอและมีชีวิตอยู่ได้ ไม่ได้ขึ้นกับปริมาณไขมันที่ฉีดเข้าไป ถึงแม้จะฉีดไขมันเข้าไปมากๆ แต่ผิวสัมผัสกับเนื้อเยื่อข้างเคียงไม่เพียงพอหรือมีเลือดมาเลี้ยงน้อยก็จะหายไปในเวลาต่อมา
การฉีดไขมันที่ใบหน้า สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งไม่ใช่เฉพาะบริเวณที่ต้องการเสริมให้นูนเด่น เช่น ขมับ ,หน้าผาก ,คาง หรือโหนกแก้ม แต่การฉีดไขมันสามารถช่วยลดริ้วรอยที่เกิดขึ้นหลังจากมีอายุมากขึ้น เช่น รอยร่องแก้ม ร่องมุมปาก [ด้านข้างของคาง] ,ร่องน้ำตา การฉีดไขมันยังช่วยลดร่องรอยที่เหลืออยู่หลังการดึงหน้าหรือแก้ปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขด้วยการดึงหน้าได้ เช่น เติมร่องแก้มให้ตื้นขึ้น ร่องน้ำตา ,รอยย่นที่ริมฝีปากบน แก้ไขรอยย่นที่ริมฝีปากหรือฉีดกราม เพื่อให้เห็นใบหน้ากว้างขึ้น

การฉีดไขมันที่ใบหน้าจะได้ผลดีในกรณีเหล่านี้

1. แก้ไขรอยเหี่ยวย่นของใบหน้าที่เกิดจากอายุมากขึ้น

ในขณะที่อายุมากขึ้นจะมีรอยย่นเกิดจากแรงโน้มถ่วงและมีการสูญเสียไขมันในส่วนต่างๆได้แก่ บริเวณขมับ , ใต้ตา , โหนกแก้ม และมีรอยย่นที่ร่องแก้ม และด้านข้างของคางอย่างไรก็ตามต้องดูด้วยว่าผิวหนังมีความยืดหยุ่นดีหรือไม่ ถ้าผิวหนังมีลักษณะหย่อนยานมากและมีร่องรอยลึกมากการแก้ไขคงต้องทำผ่าตัดดึงหน้าหรือผ่าตัดหนังตาบนและล่าง

2. ความผิดปกติของไขมันตั้งแต่กำเนิด

ในคนที่มีอายุน้อยแต่มีตาลึกมากเนื่องจากไขมันที่เปลือกตามีน้อยมากสามารถฉีดไขมันแก้ไขได้หรือในบางกรณีที่มีร่องใต้ตาลึกหรือแก้มตอบมากหรือมีร่องแก้มลึกมา การฉีดไขมันอาจทำร่วมกับการผ่าตัดอย่างอื่นบนใบหน้าได้ เช่น การดึงหน้าหลังการผ่าตัดตกแต่งหนังตา ตำแหน่งที่สามารถฉีดไขมันได้ มีดังนี้

1 หน้าผากและรอยย่นหน้าผาก
2 รอยขมวดคิ้ว
3 ขมับ
4 ขอบบนของกระบอกตา
5 หนังตาล่าง
6 ร่องน้ำตา
7 โหนกแก้ม
 8 ร่องแก้ม  
9 ขอบบนของริมฝีปาก
10 ริมฝีปาก
11 ร่องมุมปาก
12 ด้านข้างของกราม
13 เติมแผลเป็นที่ยุบให้นูนขึ้น
14 ใต้คิ้ว

หมายเหตุ

ในการฉีดไขมันไม่ควรนำมาฉีดเพื่อเสริมจมูกให้โด่งมากเพราะไขมันจะกระจายออก ให้จมูกดูใหญ่เกินความจริงยากที่จะแก้ไขได้แต่ถ้าฉีดตำแหน่งเดียวเพื่อให้ โด่งมากๆไขมันที่อยู่ตรงกลางก็จะตายไปแรกๆ อาจจะดูโด่งตามรูปที่ถ่ายหลังผ่าตัด 1 – 2 อาทิตย์ แรกเมื่อผ่านไป 1 – 2 เดือน เซลล์ไขมันที่ตายจะถูกเม็ดเลือดขาวเก็บกินไปทำให้จมูกเล็กลง การฉีดจมูกด้วยไขมันอาจทำได้เฉพาะกรณีที่ต้องการเสริมบางตำแหน่งในปริมาณ น้อยๆ จึงจะได้ผลดังที่ต้องการ

การปรึกษาแพทย์ก่อนผ่าตัด ผู้ที่จะดูดไขมันเพื่อฉีดใบหน้าจะต้องเข้าใจว่าการฉีดไขมันเป็นการผ่าตัดเพื่อย้ายเซลล์ไขมันมาวางที่ใต้ผิวหนังของใบหน้าไม่เหมือนกับการฉีดยาหรือฉีดน้ำเกลือหลังผ่าตัดต้องมีเวลาพักฟื้นเพราะบริเวณใบหน้าที่ฉีดจะมีอาการบวมเหมือนกับการผ่าตัดอื่นๆที่ใบหน้าและต้องมีการดูแลหลังผ่าตัด ดังนั้น ต้องเตรียมวันหยุดหลังการผ่าตัดไว้ 5 – 7 วัน

การฉีดไขมันแม้จะมีอาการบวมมากแต่มีข้อดีคือ เซลล์ที่นำมาใส่ที่ใบหน้าเป็นเซลล์ไขมันของเราเองมักไม่มีปัญหาเรื่องการแพ้และเมื่อฉีดแล้วผลที่ได้จะได้ผลระยะยาวอย่างไรก็ตามผลที่ได้จากการฉีดไขมันจะมีผลค่อนข้างเป็นธรรมชาติไม่ดูเด่นชัดเหมือนกับการใช้ซิลิโคนแท่งหรือการฉีดสารเติมเต็มที่มีผลถาวร

ในวันที่มาปรึกษาแพทย์ควรเตรียมข้องมูลต่างๆ ดังนี้

⦁ ถ้ามีโรคประจำตัว เป็นเบาหวานควรแจ้งให้ทราบ เพราะมีโอกาสที่จะมีการติดเชื้อได้มากกว่าคนปกติ

⦁ ดูตำแหน่งที่จะดูดไขมันโดยมากจะดูดจากหน้าท้อง ต้นขา หรือด้านในของต้นขา

⦁ ตรวจสภาพของใบหน้าตามที่ทราบแล้วว่าถ้ารอยย่นมีมากหรือมีร่อยลึกมาก การฉีดไขมันอาจจะไม่มีประโยชน์

⦁ บริเวณที่ต้องการจะฉีดและปริมาณที่ต้องการจะฉีด

⦁ อาจต้องบอกว่าแผลที่ไปฉีดที่ใบหน้าจะเปิดแผลบริเวณไหน

⦁ ถ้าทำการดึงหน้าจะฉีดไขมันบางตำแหน่งด้วยหรือไม่

⦁ ดูภาพรวมหลังจาก กำหนดพื้นที่ๆจะฉีดแล้ว วันที่ปรึกษาจะเป็นวันที่กำหนดตำแหน่งที่จะฉีดได้ชัดเจน ถ้าจะเปลี่ยนตำแหน่งของแผลและปริมาณที่ฉีดควรเข้ามาปรึกษาแพทย์ใหม่

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

⦁ เตรียมตัวลาหยุดงาน 4 – 6 วัน

⦁ งดอาหารและน้ำ 6 – 8 ช.ม. ถ้าดมยาสลบ

⦁ งดยาแก้ปวดกลุ่มแอสไพริน ทัมใจ ก่อนผ่าตัด 10 วัน

⦁ สมุนไพรบางชนิดเช่นอีฟนิ่งพรีมโรส ยาวิตามิน E ปริมาณสูงๆ อาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรส กระเทียม หัวหอม ผลิตภัณฑ์จากถั่งเหลือง อาจทำให้เลือดออกมากผิดปกติ หรือมีปัญหาระหว่างผ่าตัดหยุดประมาณ 10 วัน

⦁ ควรพาเพื่อนมาด้วยในวันผ่าตัด

⦁ ล้างหน้าแปรงฟันก่อนมาผ่าตัด

⦁ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงโรคประจำตัวของคุณเช่นเบาหวาน,โรคหัวใจและยาที่แพ้ เช่น เพนนิซิลีน,ซัลฟา ฯลฯ

⦁ งดสูบบุหรี่ 2 อาทิตย์ก่อนผ่าตัด

ขั้นตอนการผ่าตัด

⦁ ทำโดยฉีดยาชาเฉพาะที่ หรือ ดมยาสลบ

⦁ แพทย์จะเปิดแผลที่หน้าท้องหรือต้นขาประมาณ 1/2 ซ.ม. แล้วฉีดยาชาผสมอาดินาลีน

⦁ ดูดไขมันอย่างนิ่มนวลโดยไม่ใช้แรงดูดสูงโดยใช้หัวดูดขนาดเล็กเพื่อไม่ให้เซลล์ไขมันตาย

⦁ แยกเซลล์ไขมันจากน้ำเหลืองด้วยน้ำเกลือ

⦁ ฉีดไขมันในตำแหน่งที่ต้องการโดยใช้เข็มฉีดและกระบอกฉีดขนาดเล็ก

⦁ เย็บปิดแผลที่ต้นขา หน้าท้อง และใบหน้า

การดูแลหลังผ่าตัด

⦁ การฉีดไขมันจะมีอาการบวมที่ใบหน้าประมาณ 3 – 5 วัน
⦁ มีอาการเขียวในตำแหน่งที่ดูดไขมันประมาณ 7 – 10 วัน
⦁ ไขมันที่ฉีดจะเข้าที่ในเวลาประมาณ 3 – 5 อาทิตย์ โดยจะมีเซลล์ไขมันบางส่วนที่สลายไป
⦁ ในวันแรกควรนอนพักมากๆ
⦁ ทานยา ลดบวมและทานยาแก้อักเสบตามแพทย์สั่ง
⦁ ถ้ามีอาการผิดปกติหรือแดงมากให้กลับมาพบแพทย์ ⦁ นัดตัดไหมเมื่อครบ 5 วัน
⦁ ประคบเย็นที่ใบหน้า [บริเวณหน้าผาก ,แก้ม 2 ข้าง] วันละ 4 ครั้ง เพื่อลดอาการบวมประมาณ 7 -10 วัน
⦁ นัดตรวจซ้ำประมาณ 1 อาทิตย์ หลังผ่าตัด
⦁ งดดื่มเหล้าประมาณ 3 – 5 วัน
⦁ สามารถออกกำลังกายได้ปกติใน 2 – 7 วัน
⦁ งดการนวดหน้า,ทาครีม,โลชั่น 24 ช.ม.
⦁ การฉีดไขมันมากต้องใช้ผ้ายืดพันรอบๆใบหน้าประมาณ 24 ช.ม.
⦁ ถ้าต้องการฉีดเพิ่มควรรอ 4 – 6 เดือน