ดึงขมับ ดึงรอยตีนกา (temporal lift)

เป็นการผ่าตัดเพื่อดึงคิ้วและหน้าผากด้านข้างขึ้น เป็นการผ่าตัดที่ช่วยแก้ปัญหาของรอยย่นด้านข้างของหน้าผาก และแก้ปัญหาหางคิ้วตก ช่วยให้รูปคิ้วโค้งขึ้นและสามารถลดรอยลึกของรอยตีนกา (Crow feet) ได้ นอกจากนี้แล้ว บางครั้งสามารถทำร่วมกับการตัดกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดรอยตีนกาได้

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

⦁ งดยาต้านการอักเสบ ( NSAID ) เช่นแอสไพริน บุหรี่ อาหารเสริมบางตัวที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น กระเทียม น้ำมันปลา อย่างน้อย 2 อาทิตย์ ก่อนการผ่าตัด

⦁ สำหรับผู้ที่จะวางสมุนไพรบางชนิดเช่นอีฟนิ่งพริมโรส  ยาวิตามินอีปริมาณสูง ๆ อาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรส กระเทียม หัวหอม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง อาจทำให้เลือดออกมากผิดปกติหรือมีปัญหาระหว่างผ่าตัด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพราะอาจต้องหยุดรับประทานสมุนไพรก่อนเข้ารับการผ่าตัดประมาณ 3-5 วัน

⦁ สระผมตอนเช้าก่อนผ่าตัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

⦁ ผู้ที่มีความดันสูงต้องควบคุมให้เป็นปกติก่อนผ่าตัด  2 อาทิตย์

⦁ เตรียมลาหยุดงานประมาณ 2 วัน

⦁ ควรพาเพื่อนมาด้วยในวันผ่าตัด

⦁ ถ้ามีโรคประจำตัว ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน

⦁ ผู้ที่เป็นโรคหัวใจบางชนิด ต้องกินยาต้านเกล็ดเลือด เช่น ยา aspirin ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนผ่าตัด

⦁ ผู้ที่กินยา Cumadin เพื่อป้องกันภาวะการแข็งตัวของเส้นเลือดดำที่ขาหรือในผู้ที่เป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวและหยุดยาก่อนมารับการผ่าตัด

⦁ เครื่องประดับที่เป็นโลหะควรถอดเก็บไว้ที่บ้าน เพื่อป้องกันการสูญหาย เนื่องจากไม่สามารถใส่ระหว่างผ่าตัดได้

⦁ ถ้าวางยาสลบต้องงดน้ำ งดอาหาร ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 6 ชั่วโมง

เทคนิคการผ่าตัด

เทคนิคที่ 1 ลงแผลภายในไรผมเช่นเดียวกับวิธีการดึงหน้า วิธีนี้จะไม่เห็นแผลบริเวณใบหน้า แต่จะไม่สามารถดึงหน้าได้ตึงมาก สามารถทำผ่าตัดโดยฉีดยาชาได้ หรือถ้าผู้ป่วยต้องการวางยาสลบก็ได้เช่นกัน

เทคนิคที่ 2 (HAIR LINE) วิธีที่ลงแผลผ่าตัดที่ไรผม ใช้กับผู้ที่มีหน้าผากกว้างอยู่แล้ว เริ่มมีศีรษะล้าน และไม่ต้องการให้หน้าผากกว้างมากขึ้น เป็นวิธีที่มองเห็นแผลเป็นที่ไรผมแต่ไม่มีการเพิ่มความกว้างของหน้าผาก

ขั้นตอนการผ่าตัด

⦁ อาจทำโดยการฉีดยาชาหรือวางยาสลบ

⦁ การดึงขมับ (temporal lift) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยเทคนิคการผ่าตัดมีตั้งแต่การดึงมาก และการดึงน้อย ผู้ป่วยควรปรึกษาถึงรายละเอียดที่ชัดเจนกับแพทย์ก่อนการผ่าตัด แต่ละวิธีมีแผลเป็นหรือความยาวแผลเป็น และผลการรักษาแตกต่างกันมาก

⦁ หลังผ่าตัด ถ้าเป็นการฉีดยาชา อาจพักผ่อนที่คลินิก ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง ถ้าเป็นการดมยาสลบ  ควรนอกพักที่โรงพยาบาล 1 คืน

⦁ สามารถไปทำงานได้หลังผ่าตัด 2 – 3 วัน อาจมีอาการบวมที่บริเวณหน้าผาก โดยทั่วไปควรประคบน้ำอุ่น ในวันที่ 3 – 7 จะช่วยลดอาการเขียว

การดูแลหลังการผ่าตัด

⦁ ประคบเย็นที่ใบหน้า (บริเวณหน้าผาก, แก้ม 2 ข้าง) วันละ 4 ครั้ง เพื่อลดอาการบวม  ประมาณ  7 – 10 วัน

⦁ นอนยกศีรษะสูง (หนุนหมอน  2 ใบ) เพื่อลดอาการบวม

⦁ ถ้าดมยาสลบจะมีผ้าตาข่ายที่พันบริเวณใบหน้านั้นปิดไว้เพียง 1 วัน เช้าวันรุ่งขึ้นให้ตัดหรือแกะออก จากนั้นสระผมได้โดยเกาอย่างเบามือ เพื่อล้างคราบเลือดออก ซับแล้วเป่าผมให้แห้ง  สามารถสระผมได้ทุกวันตามปกติ

⦁ 7  วันหลังทำการผ่าตัด  ให้มาคลายไหมที่ศีรษะเพื่อลดอาการตึงและสุขสบายขึ้น

⦁ 10 วันและ 14 วัน หลังทำการผ่าตัด ให้มาตัดไหมทั้งหมดออก (พร้อมทั้งพบแพทย์เพื่อตรวจแผล)

⦁ หลังจากคลายไหมแล้ว ใช้ยาทาแผลเป็น ทานวดที่แผล เพื่อป้องกันการเกิดแผลเป็นนูนแข็ง (ทานวดประมาณ 3  เดือน) วันละ  2 ครั้ง  ทุก ๆ วัน

⦁ รับประทานยาตามแพทย์สั่งจนหมด ถ้าเกิดอาการแพ้ยา  เช่น  มีผื่นแดง, คัน, คลื่นไส้อาเจียน, แน่นหน้าอก  ให้มาพบแพทย์ทันที

error: Content is protected !!