Skip to content
Tel : 02-000-7294 063-661-2323
Open Daily : 10:00 - 20:00
bcoss clinic surgery
Menu
bcoss clinic
บริการของเรา
ศัลยกรรม เสริมหน้าอก
ศัลยกรรม ตาสองชั้น
ศัลยกรรม ดึงหน้า
ศัลยกรรม เสริมจมูก
อัปเดตข่าวสาร บทความศัลยกรรม
ติดต่อคลินิกของเรา
เกี่ยวกับคลินิกของเรา
English
Edit Template
bcoss clinic
บริการของเรา
ศัลยกรรม เสริมหน้าอก
ศัลยกรรม ตาสองชั้น
ศัลยกรรม ดึงหน้า
ศัลยกรรม เสริมจมูก
อัปเดตข่าวสาร บทความศัลยกรรม
ติดต่อคลินิกของเรา
เกี่ยวกับคลินิกของเรา
English
bcoss clinic
บริการของเรา
ศัลยกรรม เสริมหน้าอก
ศัลยกรรม ตาสองชั้น
ศัลยกรรม ดึงหน้า
ศัลยกรรม เสริมจมูก
อัปเดตข่าวสาร บทความศัลยกรรม
ติดต่อคลินิกของเรา
เกี่ยวกับคลินิกของเรา
English
ดึงขมับ ดึงรอยตีนกา
ดึงขมับ ดึงรอยตีนกา (temporal lift)
เป็นการผ่าตัดเพื่อดึงคิ้วและหน้าผากด้านข้างขึ้น เป็นการผ่าตัดที่ช่วยแก้ปัญหาของรอยย่นด้านข้างของหน้าผาก และแก้ปัญหาหางคิ้วตก ช่วยให้รูปคิ้วโค้งขึ้นและสามารถลดรอยลึกของรอยตีนกา (Crow feet) ได้ นอกจากนี้แล้ว บางครั้งสามารถทำร่วมกับการตัดกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดรอยตีนกาได้
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
⦁ งดยาต้านการอักเสบ ( NSAID ) เช่นแอสไพริน บุหรี่ อาหารเสริมบางตัวที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น กระเทียม น้ำมันปลา อย่างน้อย 2 อาทิตย์ ก่อนการผ่าตัด
⦁ สำหรับผู้ที่จะวางสมุนไพรบางชนิดเช่นอีฟนิ่งพริมโรส ยาวิตามินอีปริมาณสูง ๆ อาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรส กระเทียม หัวหอม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง อาจทำให้เลือดออกมากผิดปกติหรือมีปัญหาระหว่างผ่าตัด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพราะอาจต้องหยุดรับประทานสมุนไพรก่อนเข้ารับการผ่าตัดประมาณ 3-5 วัน
⦁ สระผมตอนเช้าก่อนผ่าตัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
⦁ ผู้ที่มีความดันสูงต้องควบคุมให้เป็นปกติก่อนผ่าตัด 2 อาทิตย์
⦁ เตรียมลาหยุดงานประมาณ 2 วัน
⦁ ควรพาเพื่อนมาด้วยในวันผ่าตัด
⦁ ถ้ามีโรคประจำตัว ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
⦁ ผู้ที่เป็นโรคหัวใจบางชนิด ต้องกินยาต้านเกล็ดเลือด เช่น ยา aspirin ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนผ่าตัด
⦁ ผู้ที่กินยา Cumadin เพื่อป้องกันภาวะการแข็งตัวของเส้นเลือดดำที่ขาหรือในผู้ที่เป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวและหยุดยาก่อนมารับการผ่าตัด
⦁ เครื่องประดับที่เป็นโลหะควรถอดเก็บไว้ที่บ้าน เพื่อป้องกันการสูญหาย เนื่องจากไม่สามารถใส่ระหว่างผ่าตัดได้
⦁ ถ้าวางยาสลบต้องงดน้ำ งดอาหาร ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
เทคนิคการผ่าตัด
เทคนิคที่ 1 ลงแผลภายในไรผมเช่นเดียวกับวิธีการดึงหน้า วิธีนี้จะไม่เห็นแผลบริเวณใบหน้า แต่จะไม่สามารถดึงหน้าได้ตึงมาก สามารถทำผ่าตัดโดยฉีดยาชาได้ หรือถ้าผู้ป่วยต้องการวางยาสลบก็ได้เช่นกัน
เทคนิคที่ 2 (HAIR LINE) วิธีที่ลงแผลผ่าตัดที่ไรผม ใช้กับผู้ที่มีหน้าผากกว้างอยู่แล้ว เริ่มมีศีรษะล้าน และไม่ต้องการให้หน้าผากกว้างมากขึ้น เป็นวิธีที่มองเห็นแผลเป็นที่ไรผมแต่ไม่มีการเพิ่มความกว้างของหน้าผาก
ขั้นตอนการผ่าตัด
⦁ อาจทำโดยการฉีดยาชาหรือวางยาสลบ
⦁ การดึงขมับ (temporal lift) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยเทคนิคการผ่าตัดมีตั้งแต่การดึงมาก และการดึงน้อย ผู้ป่วยควรปรึกษาถึงรายละเอียดที่ชัดเจนกับแพทย์ก่อนการผ่าตัด แต่ละวิธีมีแผลเป็นหรือความยาวแผลเป็น และผลการรักษาแตกต่างกันมาก
⦁ หลังผ่าตัด ถ้าเป็นการฉีดยาชา อาจพักผ่อนที่คลินิก ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง ถ้าเป็นการดมยาสลบ ควรนอกพักที่โรงพยาบาล 1 คืน
⦁ สามารถไปทำงานได้หลังผ่าตัด 2 – 3 วัน อาจมีอาการบวมที่บริเวณหน้าผาก โดยทั่วไปควรประคบน้ำอุ่น ในวันที่ 3 – 7 จะช่วยลดอาการเขียว
การดูแลหลังการผ่าตัด
⦁ ประคบเย็นที่ใบหน้า (บริเวณหน้าผาก, แก้ม 2 ข้าง) วันละ 4 ครั้ง เพื่อลดอาการบวม ประมาณ 7 – 10 วัน
⦁ นอนยกศีรษะสูง (หนุนหมอน 2 ใบ) เพื่อลดอาการบวม
⦁ ถ้าดมยาสลบจะมีผ้าตาข่ายที่พันบริเวณใบหน้านั้นปิดไว้เพียง 1 วัน เช้าวันรุ่งขึ้นให้ตัดหรือแกะออก จากนั้นสระผมได้โดยเกาอย่างเบามือ เพื่อล้างคราบเลือดออก ซับแล้วเป่าผมให้แห้ง สามารถสระผมได้ทุกวันตามปกติ
⦁ 7 วันหลังทำการผ่าตัด ให้มาคลายไหมที่ศีรษะเพื่อลดอาการตึงและสุขสบายขึ้น
⦁ 10 วันและ 14 วัน หลังทำการผ่าตัด ให้มาตัดไหมทั้งหมดออก (พร้อมทั้งพบแพทย์เพื่อตรวจแผล)
⦁ หลังจากคลายไหมแล้ว ใช้ยาทาแผลเป็น ทานวดที่แผล เพื่อป้องกันการเกิดแผลเป็นนูนแข็ง (ทานวดประมาณ 3 เดือน) วันละ 2 ครั้ง ทุก ๆ วัน
⦁ รับประทานยาตามแพทย์สั่งจนหมด ถ้าเกิดอาการแพ้ยา เช่น มีผื่นแดง, คัน, คลื่นไส้อาเจียน, แน่นหน้าอก ให้มาพบแพทย์ทันที
Exploring Provigil: Implications for Drug Testing
The Role of Bactrim in Treating Sinus Infections
Exploring Amoxil: Insights into Its Side Effects and Efficacy
Exploring Bactrim’s Role in Treating Sinus Infections
The Intersection of Cialis and Liver Health
The Role of Amoxicillin in Modern Medicine
The Role of Lisinopril in Modern Medicine
The Role of Doxycycline in Modern Medicine
The Impact of Tadalafil on Sexual Health and Wellbeing
Exploring the Relationship Between Amoxil and Birth Control
Comparing Augmentin and Amoxicillin: A Closer Look
The Implications of Administering Lasix Too Quickly
Cialis Super Active: Addressing Male Health Challenges
Zithromax: A Key Solution for Travelers’ Diarrhea
Exploring the Impact of Antabuse on Alcohol Dependency
The Role of Diflucan in Treating Fungal Infections
Exploring the Impact of Accutane: Insights and Experiences
The Science Behind Priligy: Insights from the Latest Conference
The Role of Zithromax in Combating Travelers’ Diarrhea
The Effects of Prednisolone: A Comprehensive Overview
The Impact of Lexapro on Mental Health and Misuse Concerns
Exploring the Benefits of Inderal: A Conference Insight
The Importance of Proper Administration of Lasix
The Role of Cipro in Treating Colitis
Exploring Provigil’s Role in Chronic Fatigue Syndrome Management
The Benefits and Challenges of Clomid in Hormonal Therapy
The Key Role of Doxycycline in Modern Medicine
The Role of Flagyl in Modern Medicine
The Impact of Amoxil: A Conference Report on Side Effects
Exploring the Efficacy of Priligy in Treating Premature Ejaculation