Skip to content
Tel : 02-000-7294 063-661-2323
Open Daily : 10:00 - 20:00
bcoss clinic surgery
Menu
คลินิกศัลยกรรม บีคอสสหคลินิก
เกี่ยวกับคลินิกของเรา
บริการของเรา
ศัลยกรรม เสริมหน้าอก
ศัลยกรรม เสริมจมูก
ศัลยกรรม ตาสองชั้น
ศัลยกรรม ดึงหน้า
อัปเดตข่าวสาร บทความศัลยกรรม
ติดต่อคลินิกของเรา
English
Edit Template
คลินิกศัลยกรรม บีคอสสหคลินิก
เกี่ยวกับคลินิกของเรา
บริการของเรา
ศัลยกรรม เสริมหน้าอก
ศัลยกรรม เสริมจมูก
ศัลยกรรม ตาสองชั้น
ศัลยกรรม ดึงหน้า
อัปเดตข่าวสาร บทความศัลยกรรม
ติดต่อคลินิกของเรา
English
Menu
คลินิกศัลยกรรม บีคอสสหคลินิก
เกี่ยวกับคลินิกของเรา
บริการของเรา
ศัลยกรรม เสริมหน้าอก
ศัลยกรรม เสริมจมูก
ศัลยกรรม ตาสองชั้น
ศัลยกรรม ดึงหน้า
อัปเดตข่าวสาร บทความศัลยกรรม
ติดต่อคลินิกของเรา
English
เสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน
เสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน
(forehead augmentation)
แม้ว่าหน้าผากเป็นส่วนที่อยู่ส่วนบนสุดของใบหน้า แต่มักได้รับความสำคัญน้อยกว่าตา จมูก คางและแก้ม ในความจริงแล้วหน้าผากมีส่วนสำคัญไม่น้อยเลย ต่อความงามและสัดส่วนที่ลงตัวของใบหน้า นอกจากความสูงของหน้าผากที่ควรได้ประมาณ1/3 ของความยาวใบหน้าแล้ว ความโหนกนูนก็มีความสำคัญไม่น้อย เพื่อให้รับกับความโด่งของจมูก โหนกแก้มและคาง จากด้านหน้า การที่หน้าผากโหนกนูนได้ส่วนและความสมดุล ทำให้รูปหน้าดูดีขึ้นมากในบางคน การเสริมเพิ่มความนูนของหน้าผากทีวิธีการทำได้หลายวิธีดังนี้
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
1. การผ่าตัดเสริมด้วยซีเมนต์เทียม เป็นการเอาซีเมนต์ที่ใช้ปะกระโหลกที่เคยตัดออกไปในคนใข้ผ่าตัดสมอง โดยซีเมนต์นำมาเสริมกับกระดูกหน้าผาก แต่มีข้อเสีย แผลผ่าตัดยาวเหมือนที่คาดผม การปรับให้ผิวเรียบทำได้ยากกว่า บวมช้ำมากกว่า จึงไม่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน ยกเว้นงานแก้งานแก้ไขกระดูกยุบจากอุบัติเหตุเท่านั้น
2. การฉีดเติมเต็มด้วยฟิลเลอร์ โดยทั่วไปปัจจุบันฉีดด้วยสารคล้ายคอลลาเจนที่เรียกว่า HA แต่เป็นสารที่อยู่ได้ประมาณ 1 ปี
ข้อดี ทำได้ง่ายบวมช้ำน้อยกว่าวิธีอื่นๆ เติมแก้ไขง่ายและเติมได้เรื่อยๆไม่ต้องพักฟื้นสามารถทำงานได้เลย
ข้อเสีย คือค่าใช้จ่าย ต้องเติมบ่อยๆมีโอกาสเป็นคลื่นๆได้ถ้าเติมไม่ถูกวิธีหรือเติมซ้ำหลายๆครั้ง มีโอกาสแพ้สารที่เติมหรืออนุภาคสารเติมเต็มไปอุดหลอดเลือดที่สำคัญ ทำให้เนื้อเยื้อบริเวณนั้นขาดเลือดไปเลี้ยง
3. การเติมเต็มด้วยเซลล์ไขมัน ไขมันที่ดูดมาฉีดหน้าผาก เป็นเซลล์ไขมันของเราเอง ไม่แพ้แน่นอน สามารถเติมได้ในปริมาณมากๆ เนื่องจากราคาถูกกว่า HA เพราะเป็นเซลล์จากร่างกายเราเอง ข้อเสีย ในกรณีเซลล์ไขมันอาจสลายไม่เท่ากัน ทำให้เกิดเป็นคลื่นไม่เรียบ อาจต้องทำมากกว่าหนึ่งครั้งเพื่อปรับผิวให้เรียบ หลังจาการฉีดจะมีการบวมประมาณ 10-14 วัน ซึ่งทำให้ต้องหลีกเลี่ยงการพบปะผู้คนในช่วงนั้น
4. การเสริมซิลิโคนแผ่นแบบเก่า เดิมการเสริมด้วยแผ่นซิลิโคนต้องนัดคนใข้มาพิมพ์แบบของซิลิโคน แบบเดียวกันกับการทำฟันปลอม โดยการทำได้ใช้แบบปูนปลาสเตอร์ เพื่อให้พอดีกับหน้าผากเดิม แล้วส่งไปทำที่ห้องแลบ การสั่งทำนี้ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน โดยที่ห้องแลบยังไม่มีในประเทศไทย มักต้องสั่งในอเมริกาและเกาหลี ทำให้ต้องมีเวลาในการจัดส่ง การผ่าตัดโดยเปิดแผลยาวตามขาวงของศรีษะ ตามแนวคาดผม ข้อดีคือได้ซิลิโคนที่พอดี เรียบ และเลือกความนูนได้ตามต้องการ แต่มีข้อเสียคือต้องเตรียมตัวนานก่อนการผ่าตัด และการที่แผลยาวทำให้บอบช้ำมากกว่า
5. การผ่าตัดเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคนแผ่น ซิลิโคนแผ่นรุ่นใหม่มีการพัฒนาไปมาก มีความนิ่มและพังงอได้มากทำให้ใส่ผ่านแผลเล็กๆได้ ไม่จำเป็นต้องเปิดแผลรอบศรีษะเหมือนกับแผ่นซิลิโคนรุ่นเก่า ทำให้ผิวหนังชอกช้ำน้อยลงมาก และมองเห็นแผลเป็นน้อย มีขอบที่บางทำให้เห็นรอยต่อน้อยลง การใช้ซิลิโคนแผ่นรุ่นใหม่จึงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะสามารถแก้ไขปัญหาผิวไม่เรียบของสารเติมเต็มหรือไขมันได้เป็นอย่างดี และเป็นการผ่าตัดเพียงครั้งเดียว
ปรึกษาแพทย์ก่อนผ่าตัด
⦁ ซิลิโคนที่ใช้จะมี 2 แบบ โดยแบบที่ 1 จะเป็นแบบที่ธรรมชาติไม่นูนมาก แบบที่ 2 จะเป็นแบบที่เพิ่มความหนาความนูนได้มาก
⦁ การผ่าตัดจะทำได้โดยดมยาสลบหรือฉีดยาชา ขึ้นอยู่กับความต้องการ แต่การทำดมยาสลบอาจมีความสะดวกสบายมากกว่า
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
⦁ งดยาต้านการอักเสบ เช่น แอสไพริน บุหรี่ อาหารเสริมบางตัวที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น กระเทียม น้ำมันปลา อย่างน้อย 2 อาทิตย์ ก่อนการผ่าตัด
⦁ สำหรับผู้ที่จะทานสมุนไพรบางชนิด เช่น อีฟนิ่งพริมโรส ยาวิตามินอีปริมาณสูงๆ อาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรส กระเทียม หัวหมอ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง อาจทำให้เลือดออกมากผิดปกติ หรือมีปัญหาระหว่างผ่าตัด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพราะอาจต้องหยุดรับประทานสมุนไพรก่อนเข้ารับการผ่าตัดประมาณ 7-10 วัน
⦁ สระผมตอนเช้าก่อนผ่าตัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
⦁ ผู้ที่มีความดันสูงต้องควบคุมให้เป็นปกติก่อนผ่าตัด 2 อาทิตย์
⦁ เตรียมหยุดงานประมาณ 7 วัน
⦁ ควรพาเพื่อนมาด้วยในวันผ่าตัด
⦁ ถ้ามีโรคประจำตัว ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
⦁ ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ ต้องกินยาต้านเกล็ดเลือด เช่น แอสไพริน ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนผ่าตัด
⦁ ผู้ที่กินยา Cumadin เพื่อป้องกันภาวะการแข็งตัวของเส้นเลือดดำที่ขาหรือในผู้ที่เป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวและหยุดยาก่อนมารับการผ่าตัด
⦁ เครื่องประดับที่เป็นโลหะควรถอดเก็บไว้ที่บ้าน เพื่อป้องกันการสูญหาย เนื่องจากไม่สามารถใส่ระหว่างผ่าตัดได้
ขั้นตอนการผ่าตัด
⦁ ประคบเย็นบริเวณหน้าผากวันละ 4 ครั้ง เพื่อลดอาการบวม ประมาณ 7-10 วัน
⦁ อาจทำโดยการฉีดยาชา หรืดมยาสลบ
⦁ เปิดแผลที่ศรีษะห่างจากไรผม 1-2 ซม. เปิดแผลยาวประมาณ 5-7 ซม.
⦁ เปิดเลาะหนังศรีษะจนถึงโหนกคิ้วจัดวางซิลิโคนให้พอดีกับหน้าผาก ใส่วัสดุที่ใช้เสริมหน้าผากแล้วเย็บปิด ไม่มีการโกนผม
⦁ หลังผ่าตัด ถ้าเป็นการฉีดยาชา อาจพักผ่อนที่คลีนิก ประมาณ 1-2 ชั่วโมง ถ้าเป็นการดมยาสลบ ควรนอนพักที่โรงพยาบาล 1 คืน
⦁ สามารถไปทำงานได้หลังผ่าตัด 3-5 วัน อาจมีอาการบวมที่บริเวณหน้าผาก โดยทั่วไปควรประคบน้ำอุ่น ใน วันที่ 3-7 จะช่วยลดอาการเขียว
การดูแลหลังการผ่าตัด
⦁ ประคบเย็นบริเวณหน้าผากวันละ 4 ครั้ง เพื่อลดอาการบวม ประมาณ 7-10 วัน
⦁ นอนยกศีรษะ (หนุนหมอน 2 ใบ) เพื่อลดอาการบวม
⦁ 7 วันหลังทำการผ่าตัด ให้มาคลายไหมที่ศีรษะเพื่อลดอาการตึงและสุขสบายขึ้น
⦁ 10 วันหลังการผ่าตัด ให้มาตัดไหมทั้งหมดออก
⦁ รับประทานยาตามแพทย์สั่งจนหมด ถ้าเกิดอาการแพ้ยา เช่น มีผื่นแดง คน คลื่นไส้ อาเจียบ แน่นหน้าอก ให้มาพบแพทย์ทันที
หมายเหตุ ⦁ ล้างหน้า สระผมได้ตามปกติ (1 เดือนหลังทำผ่าตัดสามารถทำสีผมได้) ⦁ หลังการผ่าตัดแล้ว หากพบไหมยังหลงเหลืออยู่ ให้ดึงหรือตัดออกเอง ⦁ รับประทานอาหาร โดนแสงแดด ออกกำลังกายได้ตามปกติ
error:
Content is protected !!